วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เมนูเด็ด ไดเอ็ทแบบฝรั่งเศส

อะฮ้า ... กลับมาอีกแล้วครับ สำหรับคนที่ชอบไดเอ็ท วันนี้ผมมีเมนูเด็ด แบบฝรั่งเศส จากเว็บไซด์ ร้านอาหาร ที่ผมเข้าประจำครับ เค้ามาแนะนำอาหารน่าอร่อย ทำได้ง่ายๆ แต่ถ้าเครื่องปรุงไหนไม่มีก็ละเว้นไว้ก็ได้นะครับ











สลัดนิซัวส์ (สลัดปลาทูน่าสไตล์ฝรั่งเศส)
เครื่องปรุงสำหรับ(4 คน)
กระเทียมโขลก 1 กลีบ
ผักกาดหอม 1 ต้น
เซเลรี่ ฝานบาง 125 กรัม
แตงกวาปอกเปลือก ฝานบาง 125 กรัม
ถั่วเขียวเล็ก 250 กรัม
อาร์ติโช้คกระป๋อง ฝานบาง 250 กรัม
มะเขือเทศปอกเปลือก คว้านเม็ดออก หั่นเป็นลูกเต๋า 500 กรัม
พริกกระดิ่งเขียว คว้านด้านใน นำเม็ดออก และหั่นเป็นชิ้น 1
หัวหอมหั่น 1 หัว
ไข่ต้มแบบสุกทั่ว หั่น 4 ส่วน 3 ฟอง
มะกอกดำ แกะเม็ดออก 50 กรัม
เนื้อปลาแอนโชวี่ 8 ชิ้น
ปลาทูน่ากระป๋อง ถ่ายน้ำออกเอาแต่เนื้อปลา 250 กรัม

น้ำสลัด:
น้ำมันมะกอก 7 ช้อนโต๊ะ
ใบกระเพรา หั่น 4 ใบ
เกลือ และพริกไทย

วิธีการปรุง
1. นำกระเทียมโขลกถูด้านในชามสลัดให้ทั่ว จัดเรียงใบผักกาดหอมลงในชาม สับใบผักกาดที่เหลืออย่างหยาบๆ และใส่ลงในก้นชาม
2. ผสมเซเลรี่ และแตงกวา เข้ากับถั่วเขียวเล็ก และอาร์ติโช้ค และใส่ลงบนผักกาด
3. จัดเรียงมะเขือเทศ, พริกกระดิ่งเขียว,หัวหอม, ไข่ต้ม, ลูกมะกอก และเนื้อปลาแอนโชวี่ ลงบนผักในชาม
4. หั่นเนื้อปลาทูน่าเป็นชิ้นบางๆ และวางลงในชาม
5. ในการทำน้ำสลัด ให้ผสมน้ำมันมะกอก, ใบกระเพราหั่น และปรุงรสด้วยเกลือ กับพริกไทย
6. ราดน้ำสลัดลงบนสลัด คลุกเคล้าให้ทั่วกัน และจัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

ขอขอบคุณเมนูดีๆและรูปสวยๆ จาก แฮมลีน. (2005). hamlyn Complete Cook. ลอนดอน : บาวน์ที่ บุ๊คส์ และ Gourmet.Masii.Com
http://gourmet.masii.com/th/recipe/?rid=50

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ขนมเบเกอรี่ไต้หวัน อิน บางกอก

เมื่อวันศุกร์ที่แล้วได้แนะนำ ร้านอาหาร ดีๆ ไปร้านนึง วันนี้ ก็มีมาเพิ่มเติมอีกร้านนึงครับ แต่ว่าเป็นคนละสไตล์ คนละประเทศ ... จากร้านอาหารญี่ปุ่น มาถึงวันนี้ ผมขอแนะนำร้านขนมไต้หวัน ที่เป็นสากล ... รสชาตสุดอร่อย นามว่า ร้านฆินน่า ... ชื่ออาจจะเรียกยากซะหน่อยแต่ความอร่อยมีง่ายดายครับ









Kinna Pastry House หรือ ฆินน่า พาสทรี่ เฮ้าส์ เป็นร้านเบเกอรี่สไตล์ไต้หวัน โดยมีเจ้าของเป็นชาวไต้หวัน ผู้หลงใหลในรสชาติ และศิลปะการทำพาสทรี่...ที่ฆินน่า คุณจะได้พบกับเบเกอรี่ในรูปแบบ, รสชาติ และคุณภาพของแป้งที่เป็นอีกระดับของท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นขนมปังสไตล์ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส หรือยุโรป ตลอดจนเค้กเนื้อนุ่มหลากรสชาติ

ใครรักใครชอบขนมก็ลองไปชิมกันดูนะครับ ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ไปได้ที่นี่ครับ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ : Gourmet.Masii.Com

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ความหลากหลายของอาหารจากดินแดนอาทิตย์อุทัย

แหม่ ... ห่างหายกันไปนานเลยนะครับ แต่อย่างไรวันนี้ก็กลับมาพร้อมกัน ร้านอาหาร ใหม่ที่น่าสนใจในสไตล์ Epicurean Boy อยู่แล้วครับ ... วันนี้ผมอยากแนะนำร้านอาหารที่ให้ความหลากหลายในรูปแบบยุ่นปี่ ญี่ปุ่น ... ร้าน ไดโช ซูชิ ครับ










ไดโช ซูชิ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เสิร์ฟอาหารหลากหลาย ไม่เพียงแต่ซูชิเท่านั้น แต่ยังมีสเต๊ก, หม้อไฟสุกี้, ชาบู, ตลอดจนอาหารประเภททอด, ปิ้งย่าง และอาหารว่างทานสบายๆ อาทิ สลัด, เกี๊ยวซ่า และพิซซ่าโอโคโนมิยากิ เป็นต้น เรียกได้ว่าคุ้มค่า และครบทุกรูปแบบ ร้านเปิด 2 สาขา คือ ที่สาขาโฮมโปรเพชรเกษม และสาขาสายใต้ใหม่ (และกำลังจะเปิดอีกหนึ่งสาขาเร็วๆนี้ ในย่านรัชดา) ถ้าใครอยู่ใกล้สาขาไหน ก็ไปลองชิมกันได้นะครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ครับ: ร้านอาหาร ไดโช ซูชิ (http://gourmet.masii.com/th/restaurant/1398)
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลและรูปภาพประกอบ
Gourmet.Masii.com

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551

การ์ตูนสั้นไทย สไตล์ฮาๆ by M

ใครเคยอ่านการ์ตูนเรื่องสั้นแบบออนไลน์มาบ้างครับ วันนี้ผมได้อ่านเรื่องหนึ่งจากเว็บไซด์ http://www.roigoo.com/ ที่เค้ารวบรวมการตูนเรื่องสั้น เขียนกันเอง อย่างฮาๆแบบไทยๆ เอาไว้เพียบ .... คราวนี้ผมแนะนำเรื่องนึง คือ วิธีเอาตัวรอด เมื่อเจออาหารโคตรแพง ในเมืองนอก [ by M ]
เมื่อสองหนุ่มจากประเทศไทย ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงเมืองนอกได้สำเร็จ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ไอ้สองตัวนี่ไม่มีเงินเหลือติดกระเป๋าเลยสักกะบาทเดียว คราวนี้พอหิวขึ้นมา ความซวยก็มาเยือนทันที เมื่อต้องมาเจอกับราคาอาหารสุดโหดของร้านอาหารในต่างประเทศ งานนี้คู่หูสุดอนาถ เลยเห็นทีต้องหาของกินราคาถูก ด้วยการทำอาหารกินกันเอง





credit: คุณ M ที่ http://www.roigoo.com/viewstory.php?id=135


ส่วนตอนอื่นๆ ไปติดตามกันเองต่อได้ที่ http://www.roigoo.com/ นะครับ

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2551

ควันหลงสงกรานต์ ด้วยเมนูไทยๆ

เนื่องจากช่วงเวลาสงกรานต์ของประเทศไทย ผมไปอยู่ที่เวียดนาม จึงไม่มีอะไรที่เป็น ไทยๆ มาฝาก ... วันนี้เป็นเห็นของดีที่เป็นเมนูอาหารน่ากิน แบบร้านอาหารเมืองนอกแต่เป็นสูตรไทยๆ บ้านเรา เลยเอาฝากกันไปลองทำกันดูนะครับ รับรองว่าเด็ดแน่ๆ .... เมนูที่ว่านี้คือ ซุปกล้วยแบบไทยๆ ทำกันง่ายๆ กินกันง่ายๆครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า

ซุปกล้วยแบบไทยๆ
เวลาที่ใช้ปรุง 15 นาทีสำหรับเตรียมส่วนประกอบ และใช้เวลาในการทำ 8 นาที








เครื่องปรุงสำหรับ(4 ท่าน)
น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย 50 กรัม
กระเทียม หั่น 25 กรัม
กะทิ 200 มล.
น้ำต้มผัก 400 มล.
พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
น้ำปลา หรือซ้อสถั่วเลือง 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือ ¼ ช้อนชา
น้ำตาล ½ ช้อนชา
กล้วย ปอกเปลือก หั่นเฉลียง เป็นแผ่นบางๆ 1 ลูก
พริกชี้ฟ้าแดง หั่นเฉลียง 1
สำหรับแต่ง:
ใบผักชี
มะนาว 2 ลูก หั่นเสี้ยว
ต้นหอม

วิธีการปรุง
1. ตั้งกระทะทอดน้ำมัน ใส่ต้นหอม และกระเทียมที่หั่นไว้ลงไปทอดให้นุ่ม โดยใช้ไฟปานกลาง แล้วจึงใส่ส่วนประกอบที่เหลือลงไป ทอดทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
2. ถ้าคุณชอบ ซุปนี้สามารถดัดแปลงเป็นซุปข้นได้ เก็บพริก และกล้วยไว้ประมาณ 1 ส่วน 4 แล้วนำส่วนที่เหลือไปปั่นเข้ากับน้ำซุปจนละเอียด โดยใช้เครื่องปั่น แล้วเทลงไปในกระทะที่กำลังทอดส่วนผสมทั้งหมดอยู่ นำกล้วย และพริกที่เก็บไว้ใส่ตามลงไป อุ่นทิ้งไว้ในกระทะประมาณ 3 นาที
3. เสิร์ฟร้อนๆ โรยใบผักชี, มะนาวหั่นเสี้ยว และใบต้นหอม

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก: แฮมลีน. (2005). hamlyn Complete Cook. ลอนดอน : บาวน์ที่ บุ๊คส์
และเว็บไซด์ gourmet.masii.com ครับ

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2551

เที่ยวท่อง ยอง ยอง เหลา อิน ฮานอย

หลังจากคราวที่แล้วผมได้แนะนำร้านอาหาร เวียดนาม ที่อยู่ในกรุงเทพ ไปบ้างแล้ว .... วันนี้ผมจะพาไปชม ร้านอาหาร ข้างทางในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งผมเพิ่งเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์บ้านเรา เร็วๆนี้ที่ผ่านมาเองครับ

ร้านอาหารแบบชาวบ้านๆ ข้างทางที่ผมไปเดินชมมานี้อยู่ในเขตเมืองเก่าของฮานอย หรือ เรียกตามภาษาปะกิตว่า Old Quarter ครับ .... ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะ ยองๆ เหลา คล้ายๆกับร้านข้างทางของกรุงเทพในอดีต ซึ่งแต่ละร้านจะมีเก้าอี้ตัวเล็กๆ ให้บริการลูกค้าได้นั่งข้างๆหาบ หรือร้าน เลยครับ ... ส่วนการกินก็ถือเอาของใครของมัน แต่ถ้ากินร่วมกัน เค้าก็จะมีแผ่นกระดานเล็กๆ วางไว้บนเก้าอี้อีกตัวให้เราได้วางจานชามครับ

เรื่องบรรยากาศการกิน ดีเยี่ยมครับ เพราะ เราจะได้ชมบรรยากาศรอบข้างแบบบ้านๆจริงๆ เรื่องรสชาติก็ใช้ได้เลยครับ เป็นแบบดั้งเดิม สบายๆ แต่เรื่องความสะอาดก็ว่ากันอีกทีครับ อิอิ ....




รูปนี้ผม แอบถ่าย ร้านอาหาร ร้านหนึ่งในซอย ระหว่างการเดินเที่ยวครับ ... ที่ว่าแอบถ่าย เพราะดูเหมือนเจ้าของร้านเค้าไม่อยากให้ถ่ายรูปครับ









จากรูป จะเห็นได้ว่าคล้ายๆบ้านเราเลยครับ มีหาบเร่ มีแผงขายอาหาร แต่ว่าเค้าจะเน้นนั่งแบบ ยอง ยอง เหลา จริงๆ

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551

ร้านเวียดนามในกรุงเทพ

สวัสดีครับ ... ตอนนี้กลับมาจากเวียดนามแล้ว มีประสบการณ์ที่ไปพบปะพบเจอ และพบเห็น หลายอย่างไม่ค่อยแตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ แต่หลายๆสิ่งก็ไม่เหมือนกัน เช่นอาหารการกิน บ้านเค้าจะมีความคล้ายคลึงทางจีน แต่ก็มีความเป็นเฉพาะตัวเช่นกัน

พอพูดถึงอาหารเวียดนาม คิดว่าคงไปหาทานกันได้ไม่ยาก ในเมืองไทยเองก็มี ร้านอาหาร เวียดนาม มากมายให้ได้เลือก อย่างวันนี้ก็อยากแนะนำร้านที่อยู่ในกรุงเทพ ผมคิดว่าร้านเหล่านี้ก็มีความใกล้เคียงกับบ้านเค้า แต่ปรุงแต่งให้ถูกปากคนไทยหน่อย อาทิเช่น ร้านอาหาร วนิดา แหนมเนือง อยู่แถวลาดพร้าว ร้านอาหาร หง่อนหลำ อยู่แถวสุขุมวิท 55 หรือ ร้านอาหาร ที เฮ้าส์ เวียดนาม อยู่แถวพหลโยธิน เป็นต้นครับ

.......

credit: gourmet.masii.com

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2551

ปิ้งย่าง สไตล์ญี่ปุ่น

หายหน้าหายตาไปหลายวันเลยนะครับ .... แ บบว่าติดธุระสุดใจขาดดิ้นที่จำเป็นจริงๆ ทำให้ไม่มีเวลาแวะมา update ประจำอย่างเช่นเคย แต่อย่างไรก็ตามนะครับ ... ในที่สุดวันนี้ก็ได้กลับมาพบปะเจอะเจอกันอีกครั้ง





credit: gourmet.masii.com


วันนี้ผมได้เข้าไปอ่านเว็บประจำที่ผมชื่นชอบคือ gourmet.masii.com ครับ ... เดือนนี้เค้ามีหน้า update ใหม่ๆ ที่แนะนำร้านอาหารประเภทปิ้งย่าง ... ใครที่ชอบเนื้อย่างต้องร้านนี้เลยครับ "ร้านอาหาร ไจแอนท์ส ยาคินิคุ" เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นครับ โดยสำหรับเดือนนี้ ทางเว็บไซด์แนะนำร้านพร้อมกับ พิธีกรหนุ่มหล่อ จากรายเพลง OIC ซึ่งออกอากาศทางช่อง 5 ชื่อ “น้องเต็ป” กีรติ ศิริสุทธิพัฒนา




credit: gourmet.masii.com



ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ก็ตามเข้าไปที่ลิงค์นี้เลยครับ
http://gourmet.masii.com/th/crew/

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2551

เช็งเม้ง เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ

ช่วงเวลานี้ตามความเชื่อและวัฒนธรรมเก่าแก่ของคนจีน เป็น ช่วงเทศกาลเช็งเม๊งครับ .... และในฐานะลูกหลานคนจีนคนหนึ่ง ทำให้ผมได้มีโอกาสไปไหว้บรรพบุรุษ ที่ฝากฝังอยู่ที่ต่างจังหวัด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง ... ไหนๆก็อยู่ในช่วงเทศกาลแล้ว ผมก็เอาเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทศกาลนี้มาฝากกันครับ
credit: http://www.chulapijarn.sgcu.chula.ac.th/chingming/index.html

ที่มาที่ไปของ เช็งเม้ง!!

เทศกาลเช็งเม้งเป็นธรรมเนียมการไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้ยในช่วงเดือน 3 ของจีน โดยกำหนดให้ไหว้ภายใน 15 วันแรกของเดือน วันไหนก็ได้ ซึ่งที่เมืองไทยนิยมไปไหว้ [ปีนี้เป็น]วันที่ 5 เมษายน แต่บางบ้านก็อาศัยดูวันดี และก็มีอีกหลายบ้านที่อาศัยดูวันสะดวกตำนานการไหว้ที่ฮวงซุ้ย มาจากว่า เดือน 3 เป็นช่วงเวลาในฤดูใบไม่ผลิของจีน ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มสวยงามสมควรแก่การไปชมทิวทัศน์ จึงเกิดเป็นธรรมเนียมไปไหว้บรรพบุรุษที่สุสานแทนการไหว้อยู่ในบ้านแต่ต้องไปไหว้ในช่วงเช้า อย่าให้เลยเวลาเที่ยง เมื่อไปถึงสุสานให้ไหว้เจ้าที่แป๊ะกงด้วยของคาวของหวาน ผลไม้ ขนมอี๊ 5 ที่ 5 ถ้วย เพราะการไหว้เจ้าคือการไหว้ธาตุทั้ง 5เวลาจุดธูปไหว้ ก็ต้องไหว้ธูป 5 ดอก บางแห่งมีไหว้เจ้าประตู หรือที่เรียกกันว่า " มึ่ง-ซิ้ง" ก็ต้องไหว้ธูปเพิ่มอีก 2 ดอก ปักที่เสาประตูข้างละดอก จากนั้นจึงเข้าไปไหว้บรรพบุรุษที่หลุม ซึ่งทางสุสานจะปัดกวาดทำความสะอาด ดายหญ้า และกางเต็นท์ไว้ให้ ถ้าเราสั่ง โดยเสียค่าบริการให้









ของไหว้หลุมมี 2 ชุดชุดหนึ่งไหว้บรรพบุรุษ อีกชุดหนึ่งไหว้โท้วตี่ซิ้ง คือ เทพยดาผืนดิน ของไหว้บรรพบุรุษมีของคาว ของหวาน ผลไม้ โดยนิยมกันว่าต้องมีขนมไหว้เป็น " จูชังเปี้ย " หรือ " ขนมเปี๊ยะกรอบ " และมีกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ แถมด้วยอาหารน้ำ 1 อย่าง จะเป็นน้ำแกงหรือขนมอี๊ก็ได้อย่างไรก็ตามแผ่นดินใหญ่และทำตาม ก็จะเอา " หอยแครงลวก " ไปไหว้ด้วย และจะช่วยกันกินหอยแครงตรงฮวงซุ้ยนั่นเอง ส่วนเปลือกหอยที่เหลือจะโปรยไว้บนเนินดินนอกจากนี้ก็มีของไหว้เทพยดาผืนดินซึ่งเหมือนของไหว้แป๊ะกง การไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้ย มีธรรมเนียมการเอาสายรุ้งไปแต่งโปรยไว้บนเนินดินเหนือหลุม ถ้าไหว้เป็นปีแรก จะใช้สายรุ้งสีแดงโดยเฉพาะ ปีต่อ ๆ มา จึงเล่นหลายสีได้ [ที่เมืองไทย ไม่เคยเห็นคนเอา"หอยแครงลวก"ไปไหว้ซักที อาจเพราะความไม่สะดวกก็ได้มั๊งครับ]

การไหว้ต้องไหว้เทพยดาผืนดินก่อน ด้วยธูป 5 ดอก เพราะถือว่าท่านเป็นเทพเจ้าที่จากนั้นจึงไหว้บรรพบุรุษด้วยธูป 3 ดอก และต้องไหว้ 3 รอบ (เฉพาะบรรพบุรุษ) รอจนไหว้ครั้งที่ 3 แล้ว จึงเผากระดาษเงินกระดาษทอง จากนั้นจึงจุดประทัดส่งท้าย เรื่องธรรมเนียมการจุดประทัดนี้ เข้าใจว่าเพื่อให้เสียงอันดังช่วยขับไล่สิ่งไม่ดี ไม่ให้เข้าใกล้กวนบรรพบุรุษ ยิ่งไปกว่านั้น มีการถือว่า ประทัดยิ่งดังยิ่งดี จะทำให้ลูกหลานยิ่งรวย จากประเพณีพิธีกรรมดังกล่าวล้วนเกิดจากความกตัญญูรู้คุณที่ลูกหลานพึงมีต่อบรรพบุรุษของตนเอง [แต่ว่าโดยความเชื่อของบ้านผมแล้ว การจุดประทัดที่สุสาน ไม่ดีครับ เพราะเป็นการรบกวนบรรพบุรุษ และขับไล่ไม่เฉพาะสิ่งไม่ดีเท่านั้น อาจรวมไปถึงบรรพบุรุษเราเองด้วยครับ ... อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคลครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ]

วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2551

มาเลเซี่ยนสไตล์

กลับมาอีกแล้วครับ ... สูตรอาหารชั้นเลิศ จาก ร้านอาหาร ภัตตาคารสุดหรู ในเว็บไซต์ Gourmet.Masii คอลัมน์ เมนูแนะนำประจำสัปดาห์ ... วันนี้ผมเลือกเอาเมนูที่เป็นอาหารจาก บ้านใกล้เรือนเคียงของประเทศไทยเรา นั่นคือ อาหารมาเลเซีย ครับ อิอิ จริงๆแล้วชื่อมันก็บอกอยู่ในตัวของมันแล้วว่า ... แกงเนื้อสไตล์มาเลเซีย ใส่มันฝรั่ง

แกงเนื้อสไตล์มาเลเซีย ใส่มันฝรั่ง
เครื่องปรุงสำหรับ(4 คน)
น้ำมันจากถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงสับ 5 หัว
กระเทียมโขลก 2 กลีบ
ขิงสด นำมาขูด ยาวประมาณ 2 นิ้ว
ผงกระหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ
อบเชยบดละเอียด 41 ช้อนชา
ยี่หร่าบดละเอียด 1 ช้อนชา
ผักชีบดละเอียด 1 ช้อนชา
ใบกระวานบดละเอียด 1/4 ช้อนชา
ใบกระหรี่ 4
ลูกจันทร์แปดกลีบ 1
กานพลู 4
เนื้อสเต๊กสันนอก หั่นเป็นชิ้นขนาด 1/2 นิ้ว 375 กรัม
มันฝรั่ง ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นขนาดกลางๆ 300 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดง ขูดเอาเม็ดออก และหั่นเป็นชิ้นบางๆ 2 เม็ด
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำกะทิ 300 มล.
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนชา
พริกแดงฝานเป็นชิ้นๆ สำหรับตกแต่ง

วิธีการปรุง
1. ใช้กระทะสำหรับทำซ้อส ใส่น้ำมัน ตั้งกระทะไฟอ่อนๆ พอกระทะเริ่มร้อน ใส่หอมแดง, กระเทียม และขิง ทอดเรื่อยๆประมาณ 5 นาที กระทั่งส่วนประกอบเริ่มอ่อนตัว
2. ใส่ตามด้วย ผงกระหรี่, อบเชย, ยี่หร่า, ผักชี, ใบกระวาน, ใบกระหรี่, ลูกจันทร์ และกานพลู ทอดต่ออีกประมาณ 1 นาที
3. นำเนื้อวัวลงไปผัดในส่วนผสมทั้งหมดในกระทะ ใส่มันฝรั่ง, พริก, เกลือ และกะทิลงไป ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ทิ้งใว้ให้ระอุจนเดือด ลดไฟ หาฝามาคลอบกระทะ ปล่อยให้เคี่ยวทิ้งไว้ หมั่นตักคน ประมาณ 40 นาที กระทั่งเนื้อวัวเริ่มนุ่ม และมันฝรั่งเริ่มสุก
4. เปิดฝา ใส่น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายแดง ลงไปคน ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที ปรุงรสหากจำเป็นเสิร์ฟร้อนๆ ตกแต่งด้วยพริกแดง

credit: Gourmet.Masii.Com

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2551

สัปดาห์รักการอ่านแห่งชาติ

จากหน้าข่าวสารที่เคยผ่านหูผ่านตามาหลายต่อหลายครั้ง เค้าบอกไว้ว่า สถิติของคนไทยให้ความสนใจการอ่านหนังสือลดน้อยลงเรื่อยๆ ... ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากครับ ถ้าเราให้ความสำคัญกับหนังสือเป็นเพียงเป็นสิ่งที่ให้ความรู้ในห้องเรียนเท่านั้น เพราะที่แท้จริงแล้ว หนังสือ หรือ สื่อสิ่งพิมพ์ มีมากมาย หลายอย่าง ที่มีความแตกต่างกันออกไป ... การอ่านหนังสือ ผมว่ามันช่วยให้ คนเรามีสมาธิมากขึ้น และมีประโยชน์มากโดยเฉพาะเด็กๆ ให้ได้รับการฝึกฝนด้านการใช้สมาธิ

ที่ผมพล่ามมายืดยาวไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมายครับ แค่อยากแนะนำให้ทุกคนหันมาให้ความสนใจ และรักการอ่านมากๆยิ่งขึ้น .... รวมทั้ง มาแนะนำ กิจกรรม งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 36 ซึ่งปีนี้จัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ครับ ... โดยงานเริ่มตั้งแต่วันนี้ (26 มีนา) จนถึง 7 เมษา เวลา 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มครับ ... ถ้ามีใครสนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมก็เข้าไปได้ตามเว็บไซต์นี้ครับ http://www.bangkokibf.com/aboutBKKIBF_thai.php








credit: http://www.bangkokibf.com/

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2551

ครัวกลางน้ำ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ... ผมได้ไปทำบุญสังฆทานที่สำนักสงฆ์ แห่งนึง อยู่แถวๆ บางเลน ซึ่งเค้ากำลังสร้างวัดกันอยู่ แต่ปัจจุบันยังไม่ได้การรับรอง จึงเป็นได้แค่ สำนักสงฆ์เท่านั้น ระหว่างทางกลับ ผมใช้เส้น ราชพฤกษ์ ก็จะผ่านร้านอาหารดีๆ ร้านหนึ่งชื่อ ครัวกลางน้ำ .... วันนี้เลยจะแนะนำกันซะหน่อย

ร้านอาหาร ครัวกลางน้ำ

ร้านอาหาร ครัวกลางน้ำ ตั้งอยู่บนถนนสาทร-ราชพฤกษ์ บรรยากาศธรรมชาติบริสุทธิ์ดีมาก และไม่ห่างไกลนักจากใจกลางเมือง ที่นี่เค้าเปิดให้บริการห้องคาราโอเกะหลายห้อง โดยเฉพาะห้องใหญ่แบบ VIP จะติดตั้งจอทีวีโปรเจคเตอร์ และเครื่องเสียงบรรเลงกระหึ่มใจให้ได้ร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงาน หรือครอบครัวได้เรื่อยๆถึงตีหนึ่ง เลยครับ


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ และรูปภาพสวยๆ จาก Gourmet.Masii.Com ครับ

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2551

ร้านดีๆ ที่อารีย์

อิจฉาจริงๆ ปีนี้มีเพื่อนๆของผมที่แต่งงานไปแล้วหลายคน และที่กำลังจะแต่งก็มีอีกหลายต่อหลายคน ... วันนี้ก็มีเพื่อนคนนึงโทรมานัดเจอกันตามประสาเพื่อนเก่า และบอกว่าจะมีเพื่อนคนหนึ่งแต่งงานเร็วๆนี้แล้ว ก็เลยนัดกันกินข้าวพร้อมกับแจกการ์ดเชิญไปในตัวด้วย แถวๆ อารีย์

พอพูดถึงอารีย์ ทำให้ผมนึกได้ว่ามีร้านอาหาร ดีๆ มาแนะนำให้กับ พ่อแม่พี่น้อง ลุงป้าน้าอา และญาติสนิทมิตรสหายทุกท่านอีกครั้ง
- ร้านแรกชื่อ ร้านอาหาร บ้านใบตอง เป็นร้านอาหารไทยอยู่ในซอย อารีย์ 5 ขายทั้งตอนกลางวันและตอนเย็น แต่ไม่ดึกมาก
- ส่วนร้านที่สองชือ ร้านอาหาร แดฟโฟดิลส์ (Daffodils ) ถึงแม้ว่าชื่อฝรั่ง แต่ขายอาหารไทยนะครับ อยู่ใกล้ ๆ กับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าอารีย์

ส่วนใหญ่ร้านอาหารแถวอารีย์มักจะเน้น ลูกค้าต่างชาติ เพราะมาอยู่กันเยอะ แต่ว่าถึงเป็นลูกค้าคนไทยก็ไม่เกี่ยง ... คนไทยหัวใจบริการอยู่แล้วครับ ใครอยากได้รายละเอียดร้านไหนก็ คลิ๊ก ที่ชื่อร้านนั้นได้เลยครับ ... ลองดู แล้วคุณอาจจะติดใจ

Credit: http://gourmet.masii.com/

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2551

อาหารจีน สไตล์แต้จิ๋ว ฮ่องกง

หลังจากที่เคยแนะนำเยาวราชและสำเพ็ง ในวันที่ผ่านๆมาแล้ว ... สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในสีสันของความเป็นเยาวราช คือ อาหารจีนครับ
อาหารจีนแถวเยาวราชมีมากมาย หลายแบบ เช่น อาหารเสฉวน อาหารแคระ อาหารจีนไหหลำ อาหารจีนกวางตุ้ง เป็นต้นครับ ... แต่วันนี้ ผมจะแนะนำร้านๆนึง ซึ่งเคยขายอาหารจีนในย่านเยาวราช กับอาหารจีนประเภทที่คุ้นเคย กับคนไทยเป็นอย่างดีนั่นคือ ร้านอาหารจีนแบบแต้จิ๋ว และฮ่องกง


ฮวดหลี ร้านอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋ว และฮ่องกง ซึ่งเปิดบริการมาแล้วกว่า 10 ปีในย่านเยาวราช ได้ย้ายกิจการมาเปิดใหม่บนถนนรัชดา อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีห้วยขวาง โดยให้ใช้ทางออกที่ 3
ที่ฮวดหลี มีรายการอาหารหลากหลาย ที่เตรียมรอให้นักชิมเช่นคุณเข้ามาทาน และจัดอันดับความอร่อย Star Dish ที่คุณไม่ควรพลาด ได้แก่ ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว, หมูหัน-หมั่นโถว, สเต๊กเป๋าฮื้อ และหูฉลามน้ำแดง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีรายการอาหารที่ผมว่าน่าสนใจ อาทิ ปูผัดขิง, เป๋าฮื้อออสเตรเลียเจี๋ยน,หอยแมลงภู่นึ่งกระเทียม และหอยเชลล์อบซ้อส เป็นต้น

ขอขอบคุณ คอลัมน์ Monthly Highlight ของ Sinderella Gourment.Masii.Com ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2551

Sudoku เกมตัวเลขบนตรรกะ

ช่วงนี้หลายๆคน คงเห็นว่าในกรุงเทพ ยามเช้า จะมีพนักงานแจกหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฟรีตามตึกใหญ่ๆ ชื่อ Daily Xpress ... ภายในจะมีข่าวสารต่างๆ ทั้งการเมือง แฟชั่น กีฬา การ์ตูน ... แต่มีส่วนหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของผมเป็นพิเศษ นั่นคือ ในส่วนของเกม ซึ่งนำมาจากต่างประเทศ ... และเกมที่ชอบมากที่สุดคือ Sudoku เพราะเป็นเกมบนหนังสือพิมพ์ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบนรถเมล์ ในร้านอาหาร ร้านขนมหวาน ยามว่างทุกเวลา ผมเลยลองหาประวัติมาเล่าสู่กันอ่านบ้างครับ

ประวัติ Sudoku (credit: http://www.thaiall.com/sudoku/indexo.html)

ซูโดะกุ (Sudoku) ในภาษาญี่ปุ่น เป็นคำย่อจากคำว่า ซูจิวะโดะกุชินนิคางิรุ (Suuji wa dokushin ni kagiru) มีความหมายว่า "ตัวเลขต้องมีเพียงเลขเดียว" ชื่อของซูโดะกุ มีการเรียกชื่อแตกต่างกันในแต่ละภาษา ตั้งแต่ ซูโดะกุ ซูโดกู หรือ ซูโดคู


ซูโดะกุ (Sudoku) คือ เกมปริศนาตัวเลข ที่ผู้เล่นต้องเลือกใส่ หมายเลขตั้งแต่ เลข 1 ถึงเลข 9 โดยมีเงื่อนไขว่าในแต่แถวและแต่ละหลักตัวเลขต้องไม่ซ้ำกัน ตารางซูโดะกุจะมี 9x9 ช่อง ซึ่งประกอบจากตารางย่อย 9 ตาราง ในลักษณะ 3x3 แบ่งแยกกันโดยเส้นหนา และในแต่ละตารางย่อยจะมีตัวเลข 1 ถึง 9 เช่นเดียวกัน เมื่อเริ่มเกมจะมีตัวเลขบางส่วนให้มาเป็นคำใบ้ และผู้เล่นจะต้องใส่ทุกช่องที่เหลือให้ครบ โดยตามเงื่อนไขว่าแต่ละตัวเลขในแต่ละแถวและหลักจะใช้ได้ครั้งเดียว รวมถึงในแต่ละขอบเขตตารางย่อย การเล่นเกมนี้จำเป็นต้องใช้ความสามารถในด้าน ตรรกะ และความอดทนรวมถึงสมาธิ



รูปตัวอย่างซูโดะกุ (Sudoku) cedit:http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/6/sudoku1/Image1.jpg

เกมนี้เริ่มต้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2522 ในชื่อ นัมเบอร์เพลซ (Number Place) แต่เป็นที่นิยมและโด่งดังในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ ซูโดะกุ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 และเป็นที่นิยมทั่วโลกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2548

ลองๆไปหาเล่นดูกันบ้างนะครับ แล้วจะติดใจเหมือนผม ... หุหุหุ

วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2551

10,000 B.C.

ผมมีเป้าหมายไปเที่ยวสำหรับวันพรุ่งนี้แล้วครับ .... ตอนแรกคิดว่าจะไปหาร้านอาหาร ย่านบางแค กินก่อน ... ต่อจากนั้นค่อยไปดูหนังที่ เดอะมอลล์บางแค วันนี้เลยได้มีโอกาสเข้าไปหาหนังที่จะไปดู โดยตั้งใจไว้แล้วว่า จะดูเรื่อง "10,000 B.C." หรือ ในชื่อไทยว่า "บุกอาณาจักรโลก 10,000 ปี"ครับ

หลายคนอาจจะสงสัย B.C. มันคืออะไรกันแน่ B.C. เป็นคำย่อที่มาจากคำว่า "Before Christ" หรือในภาษาไทยแปลว่า "ก่อนปีคริสตกาล" ซึ่งเค้าจะนับกันแบบย้อนถอยหลังจาก ปีที่พระเยซูคริสต์ ประสูติ ตามพระประวัติทางศาสนาคริสต์ ครับ ดังนั้น หนังเรื่อง 10,000 B.C. จึงหมายถึงว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น 10,000 ปีที่แล้วก่อนปีคริสตกาลหรือก่อนปีประสูติของพระเยซูคริสต์

นอกจากนี้ผมก็เอาเรื่องย่อมาฝากด้วยละกัน เผื่อมีใครอยากไปดูเป็นเพื่อนผม อิอิ .....
credit: http://www.nangdee.com/title/?movie_id=1416

เนื้อเรื่องย่อ
ท่ามกลางชนเผ่าชาวเขาอันไกลโพ้น นักล่าวัยหนุ่ม ดี’เลห์ (สตีเวน สเตรท) ได้ค้นพบปรารถนาแห่งหัวใจ สาวงามนามว่าเอโวเล็ท (คามิลลา เบล) เมื่อบรรดานักรบลึกลับบุกเข้ายึดหมู่บ้านของเขาและลักพาตัวเอโวเล็ทไป ดี’เลห์ถูกบังคับให้เป็นผู้นำกลุ่มนักล่าจำนวนหยิบมือในการไล่ล่าพวกนักรบไปยังสุดขอบโลกเพื่อช่วยชีวิตเธอ

ด้วยแรงขับแห่งโชคชะตา เหล่านักรบจำเป็นจะต้องเผชิญกับเสือเขี้ยวดาบ และสัตว์ร้ายยุคก่อนประวัติศาสตร์ และได้ค้นพบอารยธรรมที่สูญหายในตอนจบของการเดินทางอันกล้าหาญของพวกเขา ชะตาชีวิตที่ท้าทายของพวกเขาขึ้นอยู่กับอาณาจักรที่เหนือจินตนาการซึ่งมีกลุ่มปิรามิดสูงเสียดฟ้า ณ ที่นั้นพวกเขาจะต้องต่อกรกับเทพเจ้าทรงอำนาจซึ่งทำให้ผู้คนต้องตกเป็นทาสอย่างทารุณ

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2551

ระเบียงทะเล ที่อยู่ติดแม่น้ำ

เร็วๆนี้ ผมกำลังจะมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนเพื่อนาบ้านของเราในเดือนหน้า คือ ประเทศ เวียดนาม ครับ แต่ ยังก่อน วันนี้ผมยังไม่คิดจะพูดอะไรที่เกี่ยวกับทริปการเดินทางของผมอันนี้ ไว้ครั้งหน้าแล้วเราว่ากันใหม่ นะครับ

แต่เนื่องด้วย พาสปอร์ตของผมที่ใช้อยู่นะปัจจุบัน (ซึ่งต่อมาครั้งนึงแล้ว ก็ใช้มาเป็น 10 ปีแล้วครับ) กำลังจะหมดอายุตัวของมันเองลงไปในเดือนหน้านี้แล้วเช่นกัน ทำให้ผมจำเป็นที่จะต้องไปทำพาสปอร์ตใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็น อีเลคโทนิค พาสปอร์ต หรือ e-passport แล้วครับ และนี้เองครับที่เป็นสาเหตุให้ เมื่อวานนี้ผมหายไปไหนมา

การทำพาสปอร์ตในเขตกรุงเทพฯ สามารถทำได้ 3 แห่งครับคือ ที่กรมการศุลกากรแจ้งวัฒนะ สถานบริการปิ่นเกล้า และ สถานบริการบางนา สำหรับตัวผมแล้วที่ปิ่นเกล้า สะดวกสุดแล้วครับ .... ระหว่างทางไปปิ่นเกล้า ผมต้องผ่านเส้นจรัญสนิทวงศ์ ทำให้ได้มีโอกาส แวะเข้าไปเยี่ยม"ร้านอาหาร ระเบียงทะเล"ซึ่งอยู่ในซอยจรัญ 86/1 ที่ผมเคยอ่านผ่านตามาจากเว็บไซต์ Gourmet.Masii.Com ... บรรยากาศดีมากๆ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว จริงๆแล้ว ในความคิดผม เค้าน่าจะตั้งชื่อร้านว่า "ระเบียงแม่น้ำ" มากกว่านะครับ เพราะอยู่ติดแม่น้ำซะขนาดนี้ ใครได้ไปแถวนี้ ก็ลองดูหน่อยก็แล้วกันนะครับ .......










credit: http://gourmet.masii.com/th/restaurant/?rid=1375

พอดีไม่ได้เอากล้องติดตัวไปเองด้วย เลยเอาภาพจาก gourmet.masii.com มาให้ดูแทนก็แล้วกันนะครับ

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2551

ชุมชนโลกเสมือนจริงที่เราต้องดูแล

ทุกวันนี้ความก้าวหน้าของโลกเสมือนจริง หรือ Internet มีความสำคัญต่อสังคมชีวีตมนุษย์ยุคใหม่มากขึ้นเรื่อยๆจริงๆนะคับ ทำให้การติดต่อสื่อสาร และชุมชนก็ถูกเปลี่ยนเคลื่อนย้ายเข้ามาสู่โลกไซเบอร์ (Cyber World) ใบนี้มากขึ้นด้วยเช่นกันด้วย

ตัวอย่างของชุมชนที่ติดต่อสื่อสารกันที่ผมเคยเห็นมาบ่อยๆ เช่น Hi5.com, My Space, Masii.com, และ Blog ตามแหล่งต่างๆ จะสามารทำให้เกิดความสะดวกในการหาข้อมูลจากคนรอบข้าง ทั้งที่เรารู้จักและบางคนเราก็ไม่รู้จัก ได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ แหล่งข้อมูลความรู้เอย หาสินค้าออนไลน์เอย หาร้านอาหารดีๆซักที่เอย รวมทั้งข้อมูลแหล่งบันเทิงต่างๆนาๆ เราสามารถที่จะได้มาจากเพื่อนๆในชุมชน internet นี่เอง

แต่ถึงอย่างไร สิ่งต่างๆย่อมมีสองด้านเสมอนะคับ เมื่อมันมีคุณประโยชน์อนันต์ แต่ก็มันมีโทษมหันต์ เช่นกัน .... สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการใช้ของเราเอง ทุกคนควรใช้วิจารณญานในการใช้งานด้วยนะคับ เพราะเราๆท่านๆ ก็ได้เห็นตัวอย่างที่สะเทือนสังคมมานักต่อนักแล้ว

วันนี้ดูเหมือนซีเรียสไปซะหน่อย แต่ก็อยากให้ดูแลกันหน่อยนะคับ ..........

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2551

สำเพ็ง ก็คือ สำเพ็ง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้ไปเดินหาซื้อของแถวๆ สำเพ็ง เยาวราช ... แม้หลายๆอย่างจะเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย แต่ผมได้เห็นถึงสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย นั่นคือ

เยาวราช ยังคงเป็น เยาวราช และสำเพ็ง ก็ยังคงเป็น สำเพ็ง นั้นคือ ความพลุกพล่าน ไปด้วย พ่อค้าแม่ค้า ของขาย นักช็อปปิ้งจับจ่ายซื้อของ และนักท่องเที่ยว ความเป็นเยาวราช ไม่เคยหลับ ยามกลางวัน มีทั้งร้านค้าส่ง และปลีก ขายอุปโภค บริโภค ทั้งเครื่องเขียน เครื่องครัว ของที่ระลึก อาหารแห้ง และอะไรอีกมากมาย ส่วนยามกลางคืน ก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร ที่เปิดกันเต็มข้างทางถนนเยาวราช



รูปภาพ: สำเพ็ง
credit: http://www.108trip.com/aroundbkk/shopping/sampeng.html







สำเพ็งเป็นส่วนหนึ่งของเยาวราชที่อยู่ลึกเข้าไป ห่างจากถนนหลักใหญ่ แต่ว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความลำบากในการแสดงความเป็นแหล่งสินค้าส่ง และปลีกทางด้านของขวัญ ของฝาก หรือของจิปาถะ ส่วนใหญ่แล้วราคาของสินค้าที่ถูกจะเป็นสินค้าส่ง คือต้องซื้อหลายๆชิ้น หรือยกโหล แต่ถึงอย่างไร สินค้าปลีกก็ยังคงมีราคาถูกว่าที่อื่นมากนัก ทำให้ ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายกันอย่างล้นหลาม

ผมต้องเดินเบียดเสียดผู้คนเพื่อไปซื้อของ ระหว่างทางจะมีคนเข็นรถขนสินค้า หรืออาหาร ทำให้คนเดินต้องหลบตามด้านข้างอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน แต่ความคึกคักของผู้คน ก็ทำให้เรารู้สึกไม่เบื่อกับการเดินดูสินค้าที่หลากหลายมากมายไปหมด

วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2551

สูตรเด็ด อาหารคนไดเอ็ท

ฮ่าๆๆๆๆ วันนี้มีสูตรอาหารเจ๋งๆ ฉบับร้านอาหารสไตล์ลอนดอน มาฝากครับ ผมคิดว่า สูตรนี้เหมาะสมกับคนที่ต้องการลดความอ้วน ได้รสชาดที่ไม่จำเจ และดูสุดหรู ทั้งๆที่ เครื่องประกอบ เครื่องปรุง หาได้ไม่ยาก แถวๆบ้านเรานี้เอง
นั้นก็คือ .... สลัดใบผักชี กับมะเขือเทศ .... ครับ


รูปภาพ: สลัดใบผักชี กับมะเขือเทศ
credit: http://gourmet.masii.com/th/recipe/?rid=57







เครื่องปรุงสำหรับ(4 คน)
มะเขือเทศลูกเล็กๆ หั่นเป็นชิ้นๆ (ใช้มะเขือเทศสีดาร่วมด้วย ถ้ามี) 1 กก.
เปลือกมะนาวขูด 2 ช้อนชา
หอมแดงลูกเล็ก ฝานบาง 2 ลูก
งาคั่ว (ถ้ามี) 1 ช้อนโต๊ะ
ทำน้ำสลัด:
ใบผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมโขลก 1 กลีบ
น้ำผึ้งใส 1/2 ช้อนชา
พริกป่น 1 หยิบมือ
น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ
เกลือ และพริกไทย


วิธีการปรุง
  1. ขั้นแรกทำน้ำสลัด นำใบผักชีที่หั่นไว้ ใส่รวมกับน้ำมะนาว ,กระเทียมโขลก, น้ำผึ้ง, พริกป่น, เกลือ และพริกไทย เทตามด้วยน้ำมันมะกอก และคลุกเคล้าส่วนประกอบทั้งหมดให้เข้ากัน
  2. จัดเรียงมะเขือเทศที่หั่นเตรียมไว้ ลงในชามที่จะใช้สำหรับเสิร์ฟ โรยด้วยเปลือกมะนาวขูด, หัวหอม, หอมแดง และงาคั่ว(ถ้ามี)
  3. คลุกเคล้าน้ำสลัดที่เตรียมไว้อีกครั้ง และราดลงบนสลัด หาฝาคลอบ และทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ได้รสชาติซึมซับ และเข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมเสิร์ฟ
ขอขอบคุณเว็บไซด์ Gourmet.Masii.Com สำหรับข้อมูลสูตรอาหารดีๆด้วยครับ

วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551

เกล็ดความรู้ในวันหัวว่าง

วันนี้ไม่มีอะไร แต่อยากมีความเคลื่อนไหวใน Blog บ้าง
เลยหา เกล็ดความรู้เล็กๆน้อยมาซัก 3 ข้อ ฝากเกี่ยวกับการทำอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านอาหารทั่วไปทำกันครับ

1. ละลายเนื้อจากช่องแช่แข็งได้เร็วโดยไม่เสียรส ชาด

วิธีง่ายๆ ให้เนื้อที่ Freeze ไว้ในตู้เย็นละลายได้เร็ว เพียงคุณนำหม้อแสตนเลสมา 2 ใบ นำไปหนึ่งคว่ำ เอาเนื้อชิ้นที่ต้องการละลายวางไว้บนก้นหม้อที่หงายขึ้นแล้วเอา หม้ออีกใบวางทับเนื้อ โดยใช้ด้านก้นหม้อ เพียง 15 นาที เนื้อที่แข็งจนหั่นไม่เข้าก็นิ่มจนสามารถนำไปปรุงอาหารได้แล้วค่ะ ที่เป็นเช่นนี้เพราะแสตนเลสมีคุณสมบัติ ในการนำพาความร้อนและเย็น ความเย็นจากเนื้อถ่ายสู่เนื้อหม้อทั้งบนและล่างทำให้เนื้อคลายตัวได้เร็วกว่าการนำไปเวฟทั้งยังไม่เสียรสชาดอีกด้วยครับ

2. ปอกเปลือกไข่ต้มได้สวยงาม

เริ่มด้วยการนำไข่ต้มที่จะปอกทั้งเปลือก มาใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด เรียงชั้นเดียว นะครับ แล้วเติมน้ำให้ท่วมไข่ สูงกว่าไข่ประมาณ 1 นิ้ว แล้วปิดฝา เมื่อปิดฝาเรียบร้อย คุณก็เขย่าเลยครับ ให้แรงๆเลย ไม่ต้องกลัวไข่แตก แล้วเปิดฝาออก นำไข่มาปอก เปลือกได้โดยง่ายดาย สวยงาม เป็นเพราะน้ำที่ใส่เข้าไปแทรกตัวในรอยแตก และการกระแทกกันของไข่ก็เป็นการบุบเปลือก จึงทำให้ไข่ปอกได้สวยง่ายดายครับ

3. วิธีแก้แกงจืดเค็ม

ถ้าต้มแกงจืดแล้วเค็มเกินไป เติมน้ำมากเกินไปจะทำให้หย่อนรสอร่อย แก้ได้โดยใช้แป้งหมี่หรือข้าวสารที่ล้างสะอาดแล้วห่อด้วยผ้าขาว หย่อนลงไปต้ม ในหม้อน้ำแกง สักครู่หนึ่งรสเค็มจะค่อยๆถูกดูดไป น้ำแกงจะหายเค็ม นอกจากนี้ยัง ใช้มันฝรั่งแก้เค็มได้ แต่ต้องปอกเปลือกออกให้หมดแล้วใส่ลงไป ทิ้งไว้สักครู่จึงตัก มันฝรั่งขึ้น ความเค็มจะถูกดูดออกเช่นกัน ครับ

ไอเดียเจ๋งๆเหล่านี้ ไม่ได้มาจากที่ไหนไกลครับ หาเอาตาม forward mail นั้นเอง

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551

ความสุขทางใจ ใกล้วัดใกล้วา

เมือวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ ไปทำบุญที่วัด โสธรฯ จังหวัด ฉะเชิงเทรา
หลังจากที่ไม่ได้ไปมานาน ... พอมาอีกครั้ง ก็พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป
เช่น พระอุโบสถ ที่สร้างก็เสร็จเรียบร้อยนานแล้ว ...
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ แรงศรัทธา ของ พุทธสาสนิกชน ยังคงหลั่งไหล ไปไม่ขาด



รูปภาพ: พระอุโบสถ วัดโสธรวราราม จังหวัด ฉะเชิงเทรา
credit: http://www.dhammathai.org/watthai/central/watsothon.php







ผมได้เข้าไปไหว้พระ โดยเบียดเสียดผู้คนมากมาย มีทั้งไหว้พระ ทำบุญ เสี่ยงเซียมซี แก้บน
แล้วแต่ว่าจุดประสงค์ใครจะทำอะไร ทำให้ดูเหมือนเบียดยัดเยียดเต็มไปหมด
แต่ถึงอย่างไร ก็ยังยอมรับการจัดการของทางวัดที่ทำได้อย่างดีใช้ได้เลยทีเดียว
ทั้งเรื่องรถรา ร้านค้า ร้านอาหาร การซื้อของทำบุญ หลายต่อหลายอย่าง

หลังจากได้ไปวัดโสธรฯ แล้วก็ได้ย้อนไปที่ เสถียรธรรมสถาน ของแม่ชีศันสนีย์
ที่นี่ เงียบ สงบ และเป็นกันเองอย่างมาก ทำให้รู้สึกถึงความร่มรื่นในจิตใจ
ถ้าใครที่ต้องการปฏิบัติธรรม ก็อยากขอแนะนำที่นี่เหมือนกัน
เพราะเค้ามีการจัดโปรแกรมดีๆ สำหรับคนที่ต้องการหาความสงบทางใจ





รูปภาพ: เรือน 'จิตประภัสสร' ในเขต เสถียรธรรมสถาน
credit: http://www.sdsweb.org/

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

กิจกรรมดีๆ มีที่พักรีสอร์ทมาแจก

วันนี้มีกิจกรรมดีๆ มาแนะนำ ให้เข้าร่วมเล่นเพื่อชิงรางวัล ที่พักรีสอร์ท บนเกาะพีพี ฟรี 3 วัน 2 คืนครับ ....
ทางเว็บไซด์แนะนำร้านอาหารในกรุงเทพ Masii Gourmet เค้าจัดกิจกรรม Survey ในคอลัมน์ Activity
ถ้าใครอยากเล่นชิง รางวัลก็ไปได้ที่เว็บไซด์โดยตรงเลยครับ ...
http://gourmet.masii.com/th/


ก่อนเข้าไปเล่น ต้องลองอ่านคอลัมน์ต่างๆในเว็บไซด์ ดูก่อนนะครับ
แล้วก็เข้าไปคลิ๊ก ที่ banner กิจกรรม (สีแดง) ได้ตามรูปด้านล่างครับ

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เกาะพีพี เกาะแดนใต้แห่งสยาม

ประเทศไทย ได้รับความนิยมว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุด เนื่องจากเรามี ธรรมชาติที่หลากหลาย
สวยงาม ประเพณีวัฒนธรรมเก่าแก่ และ ความเป็นมิตรไมตรีของคนไทย เราควรภาคภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินที่งดงาม



credit: http://www.phiphinatural.com/




ธรรมชาติแดนใต้ของไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างชาติต่างภาษาเข้าแวะเยี่ยมชม
ปีหนึ่งๆ หลายสิบล้านคน เพื่อที่จะพักผ่อน หรือ ทำกิจกรรมสนุกเพลิดเพลิน อาทิเช่น ดำน้ำ ล่องเรือ เล่นกีฬาทางน้ำ
เดินป่า เที่ยวเกาะ หรือ กินอาหารแปลกตา ....



credit: http://www.phiphinatural.com/





เกาะพีพี เป็นหนึ่งแหล่งที่นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนอย่างมากมาย ความพร้อมของแหล่งที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร
และ ธรรมชาติที่คงความสวยงาม ทำให้ พีพี ติดหนี่งในเกาะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ
และเป็นแหล่งถ่ายทำหนังฮอลลีวูดอีกด้วย ....



credit: http://www.phiphinatural.com/





แต่แม้ถึงเราจะมีธรรมชาติงดงาม มากมายเพียงไหน ถ้าคนยังไม่เลิกแสวงหา เฉพาะผลประโยชน์ส่วนตน
อย่างไรวันหนึ่งก็ต้องหมดหายไป จากดินแดนสยาม เราควรช่วยกันรักษาเพื่อ ลูกหลานเราสืบไปเถอะครับ .....

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

นักมวยไทย ... ในระดับโลก




เมื่อพูดถึงนักชกมวยขวัญใจชาวไทยแล้ว ใครๆคงจะนึกถึง "เขาทราย แกเล็คซี"
เพราะเขาทราย เป็นแชมป์โลกมวยสากลอาชีพ อยู่หลายสมัย ...
วันไหนที่เขาทราย ป้องกันแชมป์ ถนนทั่วกรุงเทพมหานคร จะไม่มีรถติดเลย
ทุกคนต่างอยู่บ้าน หรือร้านอาหารที่มีทีวี เพื่อนั่งชมการชก พร้อมกับลุ้นไปด้วย
เขาทรายจึงสร้างชื่อให้ ต่างประเทศรู้จักนักมวยชาวไทยมากขึ้น


รูป เขาทราย แกแล็คซี่
credit : http://www.siamsport.co.th/


ในขณะนี้ ถ้ามามองในมุมของนักชกมวยไทยบ้างแล้วล่ะ ...
หลายประเทศเริ่มรู้จักมวยไทยกันมากขึ้น และหนึ่งในนักชกที่สร้างชื่อทางด้านมวยไทยนั่นคือ
บัวขาว ป. ประมุข ... ที่ออกจากประเทศไทยไปชกสร้างชื่อยังต่างแดน
ในรายการ K-1 จนทำให้ชาวต่างชาวหลายคนหันมองความร้ายกาจของมวยไทยมากขึ้น
"บัวขาว" ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนมวยไทย ไปชกรายการ K-1 ที่ประเทศญี่ปุ่น
และสามารถเป็นแชมป์ได้ถึง 2 สมัยคือ 2004 และ 2006
ปีนี้ บัวขาว ก็ลงศึกชิงชัยในปี 2008 เช่นกัน ... เรามาช่วยกันเชียร์เพื่อให้นักชกชาวไทย
ประสบความสำเร็จมี แชมป์ 3 สมัยคนแรกของศึก K-1 กันเถิดครับ

รูป บัวขาว ป. ประมุข
credit http://www.wmtc.nu/

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ร้านอาหารสูงสุดใน Chart

หลังจากหยุดเสาร์ อาทิตย์มาติดกัน ... ได้ข้อมูลร้านอาหารใหม่ๆจากเว็บไซต์นึง ที่ผมเข้าบ่อย
เพื่อหาร้านดีๆ น่ากิน นั่นคือเว็บ gourmet.masii.com เพราะที่นี่เท่าที่ดูและเปรียบเทียบกับเว็บอื่นแล้ว
ที่นี่น่าจะมีข้อมูลร้านอาหารจำนวนมากที่สุด

ร้านอาหารที่ติดอันดับหนึ่งติดอยู่ในชาร์ดอย่างต่อเนื่องในขณะนี้คือ ร้านอาหาร เดอะเลค
เป็นร้านที่อยู่แถวๆ เมืองทองธานี ซึ่งในความคิดของผมแล้ว อยู่ค่อนข้างไกลบ้าน ไปถึงเมืองนนทฯโน้น
แต่ว่าบรรยากาศ แบบแนวแถบชานเมืองทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ
ร้านอาหาร เดอะเลค เปิดช่วงเย็นถึงดึก เพราะเค้าจะมีบริการบาร์ค็อคเทลให้ด้วย
แถมเราสามารถเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปได้เองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
สรุปแล้วคือ เค้าให้กินไปดื่มไปด้วยได้เลย ในบรรยากาศชิวๆ
ถ้าใครอยู่ใกล้ๆ ก็ฝากแวะเข้าไปกินด้วยนะครับ



รูปบรรยากาศ ร้านอาหาร เดอะเลค
credit: Gourmet Masii

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ควันลง ... มาฆบูชา

เมื่อวานนี้ วันมาฆบูชา .. ตื่นสายไม่ทันตักบาตรทำบุญตอนเช้าเลย ง่วงซะ
เนื่องจาก ช่วงกลางดึกก่อนหน้ามีบอลคู่สำคัญของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก
ระหว่าง โอลิปปิก ลียง กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ... ผลออกมาเสมอกัน 1:1 อย่างสนุกสนาน

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำบุญช่วงเช้า แต่อย่างน้อย ช่วงเย็นๆ ก็ได้ไปเวียนเทียน
ที่วัดปทุมวนาราม ข้างๆ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ... ครั้งนี้ได้ไปนอกจากอิ่มบุญ แล้วยังอิ่มท้องด้วย
เพราะพี่ชายเลี้ยง ไม่เสียตังค์ อิ อิ ...
หลังจากเวียนเทียนเสร็จแล้ว ก็ไปกินข้าวที่ ร้านอาหาร ญี่ปุ่น ชื่อ อากะ อยู่ชั้น 7






อาหารใช้ได้เลย เป็นพวกปิ้งย่าง (yakiniku) และ ต้มๆ (shabu shabu) แต่ราคาค่อนข้างแพงหน่อยนะ

อิ่มท้องอิ่มใจ สบายกายสบายใจ เจงๆ .... หุหุ

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

พรุ่งนี้ ... เป็นวันมาฆบูชาครับ

พรุ่งนี้ ... เป็นวันมาฆบูชา ครับ
ถือได้ว่าเป็นวันที่สำคัญทางศาสนาพุทธวันนึง .... แล้วก็เป็นวันหยุดสำหรับผมด้วย อิอิ
บางคนอาจจะไม่รู้ประวัติว่า วันมาฆบูชา เป็นอย่างไร ทำไมถึงได้สำคัญนัก
ผมก็จะเล่าให้ฟังย่อๆ ก็แล้วกันนะครับ

วัน มาฆบูชา เป็นวันตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง โอวาทปฎิโมกข์
และเกิดเหตุการณ์สำคัญ 4 ประการด้วยกันคือ
1. เป็นวันที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
2. พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้าทั้งหมด
3. พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนแต่เป็นผุ้ได้บรรลุพระอรหันต์แล้วทุก ๆองค์ด้วย
4. เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงกำลังเสวยมาฆฤกษ

กิจกรรมที่ควรทำในวันนี้ก็คือ ตักบาตรตอนเช้า เข้าวัด ฟังเทศน์ และเวียนเทียนตอนกลางคืนครับ

วันหยุดทางศาสนาแบบนี้ หยุดเที่ยวผับ เข้าบาร์ หันมาเข้า ร้านอาหาร ธรรมดากับครอบครัวแทนดีกว่านะครับ
อย่างน้อยก็ งด แอลกอฮอล์ ซักวัน เพื่อ เป็นผลดีกับสุขภาพตัวเองละกันนะครับ ....

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

DJ. ผู้กระจายความสุขไปกับเสียงเพลง (อิจฉาจัง)

หายหน้า หายตาไปหลายวัน .... กลับมาอีกครั้งกับ Epicurean Boy
เมื่อวานนี้นั่งเล่นอินเตอร์เน็ท หาร้านอาหารกะว่าจะไปกินอะไรซะหน่อย
เข้าไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เผอิญไปสะดุดตากับคอลัมน์นึงในเว็บไซต์ของ Gourmet Masii
เค้าเขียนเรื่องเกี่ยวกับแนะนำร้านอาหาร กรีนการ์เด็น ซึ่งมี presenter เป็น DJ ของ Hotwave
ชื่อ เขมรัชต์ สุนทรนนท์ หรือ ดีเจอ๋อง

credit: gourmet.masii.com
(ผมไม่พูดถึงคอลัมน์นะครับ ถ้าอยากอ่านก็มานี้ http://gourmet.masii.com/th/crew/)

ในความคิดของผม DJ. หรือ Disc Jockey เป็นหนึ่งในอาชีพที่ทำแล้วมีความสุข และน่าอิจฉาที่สุด
เพราะถ้าไปนับเรื่องการทำธุรกิจแล้ว อาชีพนี้สามารถหาความสุขได้อยู่ตลอดเวลา
ทั้งให้ความสุขกับผู้ฟัง และตนเอง ... ได้อยู่กับเสียงเพลงที่ชื่นชอบ เหมือนกับได้ผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา
รวมทั้งในประเทศไทยบ้านเรา อาชีพดีเจ ปัจจุบันสามารถขยับขยายไปอยู่ส่วนอื่นๆของวงการบันเทิงได้ด้วย
เช่น พิธีกร ดารา นักร้อง นักแสดง ฯลฯ ดูได้ง่ายๆอย่าง คุณไก่ สมพล สามารถทำได้ทุกอย่างที่ผมกล่าวมาเลยทีเดียว
เป็นอย่างนี้แล้ว ... จะไม่ให้ผมอิจฉาได้ยังไงล่ะคับ หุหุหุ ....

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เกมสนุกๆ สไตล์นาย Epicurean Boy

สวัสดีครับ ... พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนๆ ลุงป้าน้าอา ที่น่ารัก
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ วันวาเลนไทน์ ที่แสนหวาน ... ไปแวะที่ไหนกันบ้างเอ่ย
มาเล่าสู่กันฟัง (อ่าน) บ้างก็ได้นะครับ ....

วัน สองวันที่ผ่านมา ผมพูดเรื่องวนเวียนอยู่เกี่ยวกับร้านอาหาร เลยทำให้นึกขึ้นได้ว่า
ผมมีเกมส์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารมาแนะนำให้ พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้าน้าอา และเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนได้ทดลองเล่นกัน
เกมส์ ที่แนะนำนี้เป็นประเภท แฟตส์นะครับ ... ถ้าใครไม่มี ก็ไป download กันได้ที่นี่ครับ
http://www.adobe.com/products/flashplayer/

เริ่มเกมแรก : เกม Hot Corn


เกมที่สอง : เกม Pop Pie


วันนี้เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกันครับ ... ว่างๆ จะหาอะไรสนุกๆ มาให้เล่นกันอีก ไปล่ะคับ BYE BYE

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

สนุกสนาน กับ วาเลนไทน์

ในที่สุด วาเลนไทน์ ... วันแห่งความรักของสากลโลก (โดยเฉพาะชาวคริสต์คับ) ก็มาอีกปีนึงแล้ว
ใครที่มีแต่เนื้อคี่ (คนเดียว) ก็ขอให้พบเจอเนื้อคู่นะคับ ... ถ้าใครที่มีหวานใจแล้วก็ขอให้มีความสุขรัก น๊าน .. นาน
แต่ถ้าใครที่มีเนื้อคี่อีกแบบ (รักสามเส้า รักพี่เสียดายน้อง) ก็ขอให้ตัดสินใจให้แน่นอนซะวันนี้ จะได้มีความสุขในชีวิตนะคับ


ช่วงเย็นของค่ำคืนนี้คงมีใครต่อใคร หลายคนตัดสินใจ ไปเที่ยวกับแควน ๆ
หรือ เพื่อนสนิท (พวกปากแข็ง) หรือ พี่ชายน้องสาว (หึหึ ปากแข็งอีกเหมือนกัน)
ผมมีแหล่งเที่ยวดีๆ เจ๋งๆ มาแนะนำให้ครับ ... ไม่ใกล้ ไม่ไกล ตรอกข้าวสารบ้านเฮา แหล่งกินเที่ยว สไตล์วัยมัน
มีร้านอาหาร แถวตรอกข้าวสาร จะเป็นแนวแบบ ผับ บาร์ มากมาย คับ
ที่เคยไปก็พวก The club, อ๊อสติน บาร์ และ ซูซี่ ผับ คับ นับว่าใช้ได้เลย

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ประเดิมบล็อคใหม่

วันนี้ ฤกษ์งามยามดี ประเดิมการขึ้นบล็อคใหม่ ....
ผมไม่ได้เล่นมาก็นานแล้ว แต่ว่าเห็นเพื่อนเล่นกัน ก็อยากมีกะเค้าบ้าง
คิดก็คิดอยู่ ว่าทำบล็อค แล้วจะเขียนอะไรดีหว่า คิดไปคิดมา ....
มนุษย์เราก็วนเวียนอยู่ไม่กี่อย่างในแต่ละวัน คือ นอน ทำงาน เที่ยว กิน เท่านั้นเอง
ว่าแล้วก็มาสรุปที่เราคุ้นเคยดีกว่า คือการกิน เที่ยว เพราะเป็นอะไรที่ไม่ซีเรียสที่สุดแล้ว

พอดี วันนี้เข้าไปเที่ยวเล่นเลือกร้านอาหารที่เว็บที่ผมเข้าประจำ (แบบว่ามันคุ้นเคยกันดีอ่ะคับ)
gourmet.masii.com

วันนี้เห็นเค้าแนะนำร้านอาหารใหม่ๆ ผมก็ยังไม่เคยลอง แต่มันอยู่ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์
เผื่อใครหาที่ไปไม่ได้ ก็ลองดูเองก็แล้วกันนะคับ ... ส่วนตัวผมนั้น หุหุ มีแล้วแต่ไม่บอก ...

อ้อ อออออ ... เอาภาพมาฝาก เผื่อให้อยากแล้วจากไป

ปล. ขอขอบคุณภาพสวยจากเว็บ gourmet.masii.com ด้วยครับ